3 วิธีการนอนที่มีคุณภาพเพื่อผิวสวย

ผิวพรรณดีเปล่งปลั่งสดใสก็อยากได้ เงินก็อยากจะหา สาวๆ Working Woman ทั้งหลาย อาจจะเลือกยากสักหน่อย เพราะจะต้องทำอะไรด้วยตัวเองไปซะหมด โดยเฉพาะเรื่องของการทำงาน นอกจากยุ่งทั้งวันแล้วยังยุ่งทั้งคืนอีกด้วย การที่เรามีความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ดี แต่บางทีมันก็เยอะจนทำให้เราไม่ได้นอนหรือนอนน้อยจนทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน หรือรู้สึกโหยหาการนอนอยู่ตลอดเวลา นอนยังไงก็ไม่เต็มอิ่ม สิ่งต่างๆเหล่านี้เรียกว่าเป็นปัญหาการนอนไม่พอซึ่งมันจะส่งผล ต่อสุขภาพร่างกายและระบบการทำงานภายใน ซึ่งจะเป็นไปได้แบบไม่มีประสิทธิภาพ แล้วจะเสื่อมโทรมลงไปมากในที่สุด นอกจากนี้ยังส่งผลต่อเรื่องผิวพรรณภายนอกทั้งผิวหน้าและผิวกายก็จะขาดความเป็นความสดใส และดูเหนื่อยดูโทรมกว่าปกติอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เรื่องของการนอนจึงไม่ใช่เรื่องเล็กและเป็นเรื่องที่คุณไม่ควรจะมองข้าม คลินิก ขอนแก่น จึงได้นำเคล็ดลับวิธีการสำหรับการนอนที่ถูกต้อง มาฝากกันในวันนี้ด้วย

ความหมายของการนอนแต่ละแบบ

ความสำคัญของการนอนมีมากมายกว่าที่คุณคิด เพราะมันไม่ใช่เพียงแค่เราง่วงแล้วนอนหลับไป ตื่นเช้ามาก็เป็นวันใหม่เท่านั้น แต่มันส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกายและระบบความสวยงามของผิวกายซึ่งในที่นี้ การนอนมี 3 แบบ ก่อนจะไปถึงวิธีการนอนที่มีคุณภาพเพื่อผิวสวย ไปดูกันก่อนว่าคุณจัดอยู่ในคนที่มีลักษณะการนอนแบบไหน

  • นอนน้อย

กลุ่มคนที่นอนไม่ถึง 6 ชั่วโมง จัดว่าเป็นคนนอนน้อย ร่างกายจะรู้สึกถึงความพักผ่อนไม่เพียงพอจะรู้สึกไม่สบายตัวอาจจะมีอาการตาแห้งแสบตาไปบ้างหรือจะมีอาการมีถุงใต้ตามาให้เห็นก่อนวัยบ้าง แต่ก็ถือว่า ไม่หนักเท่ากับการนอนอีก 2 รูปแบบที่กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ แต่สำหรับวิธีการแก้ถุงใต้ตาเราสามารถใช้สำลีชุบโลชั่นแปะเอาไว้ ก็จะช่วยบรรเทาอาการบวมของถุงใต้ตาได้เป็นอย่างดี

  • นอนไม่พอ

ใครก็ตามที่นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน เราจะสังเกตเห็นได้ทันที นอกเหนือจากอาการง่วงเหงาหาวนอนที่จะมีเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แม้ว่าจะนอนชดเชยยังไงก็ไม่พอไม่รู้สึกสดชื่น แล้วเราจะยังรู้สึกไปถึงผิว ของเราจะมีรูขุมขนกว้างขึ้น รู้สึกได้ชัดเจนถึงความแห้งกร้าน ใบหน้าจะแห้งเป็นขุย โลชั่นหรือครีมชนิดใดก็ยากที่จะบรรเทา ที่สำคัญคือเป็นปัญหาเวลาแต่งหน้า เมคอัพทาแป้งรองพื้นกี่ชนิดก็ไม่ติด วิธีการแก้สำหรับปัญหานี้คือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง นอนให้เต็มอิ่มหลับให้มีคุณภาพเพื่อชาร์จพลังให้ร่างกายและผิวพรรณกลับขึ้นมามีความแข็งแรงดังเดิม และควรผ่อนคลายความตึงเครียดงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือชารวมไปถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกรูปแบบ

  • ไม่ได้นอน

กลุ่มคนสุดท้ายคือกลุ่มที่มีอาการหนักที่สุด เพราะไม่ใช่ว่าเรานอนน้อยหรือนอนไม่พอ แต่มันสำคัญตรงที่เราทำงานข้ามวันข้ามคืนโดยที่ไม่ได้หลับนอน และการแค่เราไม่ได้นอนเพียงคืนเดียว ก็สามารถทำร้ายผิวถึงขั้นรุนแรงโดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัวเลยล่ะ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราจำเป็นต้องใช้เวลาฟื้นฟูสภาพผิวอีกหลายวันหรือบางคนเป็นสัปดาห์กว่าที่ผิวจะกลับมามีความชุ่มชื้น หายจากอาการแห้งกร้านและรูขุมขนกว้าง แต่อย่างไรก็ตามการที่เราไม่ได้นอนแม้จะวันเดียวหรือติดต่อกัน 2-3 วัน นอกจากทำให้เกิดปัญหาต่างๆดังกล่าวแล้วยังทำให้ผิวหมองคล้ำดูโทรมตลอดเวลาไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นวิธีการดูแลผิวพรรณสำหรับผู้ที่เจอปัญหานี้ อันดับแรกให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไปพร้อมกับการบำรุงผิวด้วยครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวต่างๆ และอย่าลืมใช้ครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้งเพราะผิวของคุณ คือผิวที่อยู่ในกลุ่ม ที่บอบบางและอ่อนแอมากที่สุดดังนั้นมันจะไวต่อแสงแดด

 

การนอนอย่างมีคุณภาพ

เคล็ดลับดีๆ ที่คลินิก ขอนแก่นนำมาฝากกันวันนี้ คือวิธีการนอนหลับให้เพียงพอและมีคุณภาพมากที่สุด สำหรับคำว่า นอนแบบมีคุณภาพ จะต้องเป็นการนอนที่คุณหลับลึกที่สุดในสภาพบรรยากาศที่เอื้ออำนวยแก่การนอนมากที่สุด และนอนให้ได้จำนวนชั่วโมงมากที่สุด 6-8 ชั่วโมง และยังมีวิธีการอื่นๆอีกดังนี้

 

  • หลีกเลี่ยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างนอน

เป็นเรื่องปกติที่เราจะติดมือถือเพราะเราจำเป็นที่จะต้องท่องไปในโลกโซเชียลก่อนนอนเป็นประจำทุกคืน การเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน โดยเฉพาะช่วงเวลานอนหรือก่อนนอนจะทำให้ร่างกายเราถูกกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใครก็ตามที่เอามือถือไว้ใต้หมอนหรือไว้บริเวณใกล้ศีรษะระหว่างนอน รวมไปถึงการที่คุณพกคอมพิวเตอร์เข้าไปนั่งทำงานในห้องนอนแล้วก็ตั้งทิ้งไว้แบบนั้น มันคือตัวบ่อนทำลายสุขภาพและทำให้คุณ นอนหลับแบบไม่มีคุณภาพด้วย

  • งดเครื่องดื่มคาเฟอีน

เป็นที่รู้กันดีว่าเครื่องดื่มประเภทที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบอย่าง เช่น กาแฟ หรือเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ประเภทชาร์จพลังที่ต้อง มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ เครื่องดื่มต่างๆ เหล่านี้มันจะทำให้ เราหลับยากขึ้น เช่น เราดื่มกาแฟในช่วงบ่ายซึ่งกาแฟจะมีฤทธิ์ ของคาเฟอีนทำให้เรา ตาสว่างไปจนถึง 8 ชั่วโมง ดังนั้นเราจึงไม่ควรดื่มก่อนเวลานอน

  • เวลาการนอน

ช่วงเวลาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความมากน้อยของชั่วโมงที่คุณนอน แต่มันหมายถึง การนอนอย่างเต็มอิ่มโดยมีคุณภาพไม่มีอะไรมารบกวน และยังมีงานวิจัยจากต่างประเทศออกมารองรับอีกว่าการนอนมากๆไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป เพราะมันจะแฝงไปด้วยสัญญาณที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังบางอย่างโดย ที่เราอาจจะไม่รู้ตัวปัญหาเหล่านั้นก็คือเราอาจจะรู้สึกซึมเศร้าร่างกายเสียสมดุลขาดความกระตือรือร้นนอนทั้งวันแต่ยังรู้สึกง่วงอยู่ตลอดเวลา นั่นคือการนอนที่ไม่ได้คุณภาพนั่นเอง ดังนั้นเวลานอนที่ดี ควรไม่มีมือถืออยู่ในห้อง กำหนดช่วงเวลาการนอนให้เร็วขึ้น ก็จะช่วยให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนได้ดีขึ้นในอนาคต